ข่าวความเคลื่อนไหว
สรุปผลการประชุมนานาชาติ UNESCO-APEID ครั้งที่ ๑๖
สรุปผลการประชุมนานาชาติ UNESCO-APEID ครั้งที่ ๑๖
“หัวใจของการศึกษา : การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน”
16th UNESCO-APEID International Conference)
“The Heart of Education: Learning to Live Together”
๒๑ – ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
ณ โรงแรม Pullman King Power กรุงเทพฯ
นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ย้ำความสำคัญของการศึกษาในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน เน้นการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน การสร้างความเข้าใจ และส่งเสริมขันติธรรมเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติสุข ในระหว่างเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมนานาชาติ UNESCO-APEID ครั้งที่ ๑๖
กระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานยูเนสโก กรุงเทพฯ ได้ร่วมกันจัดการประชุมนานาชาติ UNESCO-APEID ครั้งที่ ๑๖ โดยได้รับการสนับสนุนจาก ๓ หน่วยงานหลัก คือ APNIEVE Pearson และ J.P.Morgan เพื่อมุ่งศึกษาสำรวจกรอบแนวคิดในการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนความคิดและมุมมองที่เชื่อมโยงระหว่างการเรียนรู้ และการพัฒนาทางสังคม ค้นหาวิธีการ/รูปแบบในการกำหนดนโยบายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน รวมทั้งจัดตั้งเครือข่ายเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ระหว่างผู้จัดทำนโยบาย นักวิจัย นักการศึกษา นักบริหาร เยาวชน และบุคลากรภาคเอกชน โดยมีผู้แทนจาก ๓๐ ประเทศ ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกเข้าร่วมการประชุมฯ รวม ๒๕๐ คน
As Ban Ki-moon, the UN Secretary-General pointed out at the launch of the Education First initiative in September 2012 “…..when we put Education First, we can reduce poverty and hunger, endwasted potential – and look forward to stronger and better societies for all.” | |
วิทยากรทั้งชาวไทยและต่างชาติได้นำเสนอประสบการณ์/แนวปฏิบัติที่ดีในระหว่างการประชุมวิชาการและการประชุมกลุ่มย่อย โดยมีหัวข้อสอดคล้องกับหัวข้อหลักของการประชุมครั้งนี้ | |
การประชุมฯ ประกอบด้วย การประชุมทางวิชาการซึ่งเน้นเรื่องกระบวนทัศน์ในการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน แนวปฏิบัติด้านนวัตกรรม การร่วมมือกันและการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ รวมถึงนโยบายและเครื่องมือเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ในการอยู่ร่วมกัน และการประชุมกลุ่มย่อยเพื่อนำเสนอผลงานทางวิชาการโดยหัวข้อที่นำเสนอมีความสอดคล้องกับหัวข้อหลักของการประชุมฯ โดยได้มีการอ้างถึงรายงานของ Delors ซึ่งตีพิมพ์เมื่อปี ค.ศ. ๑๙๙๖ ที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาในศตวรรษที่ ๒๑ บนพื้นฐานของการเรียนรู้ ๔ เสาหลัก ได้แก่ การเรียนเพื่อที่จะใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น (learning to live together) การเรียนเพื่อที่จะให้รู้ (learning to know) การเรียนเพื่อให้สามารถกระทำได้ (learning to do) และการเรียนเพื่อที่จะเป็น (learning to be) ซึ่งเป็นหัวใจหลักแห่งการพัฒนาบุคคลและชุมชน และที่สำคัญอย่างมากคือ เสาหลักแรก “การเรียนรู้เพื่อที่จะใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น” ซึ่งเป็นความปรารถนาของบุคคลที่จะเรียนรู้ผู้อื่นจากภูมิหลัง วัฒนธรรม ประเพณี และค่านิยม โดยสิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดความเข้าใจและความสมัครสมานสามัคคีระหว่างกัน และด้วยเหตุที่หลายประเทศทั่วโลกต้องประสบกับสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ความขัดแย้งทางเชื้อชาติ และความเหลื่อมล้ำทางด้านศีลธรรม จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เหล่านานาประเทศควรมองย้อนกลับไปและให้ความสำคัญกับหัวใจหลักของการศึกษาที่นำไปสู่การอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติสุข
ผู้จัดทำนโยบาย นักวิจัย นักการศึกษา นักบริหาร เยาวชน และบุคลากรภาคเอกชนจาก ๓๐ ประเทศ ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ได้ร่วมกันหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น | |
การเชื่อมโยงทักษะพื้นฐานและความรู้ การส่งเสริมความเข้าใจระหว่างวัฒนธรรม การปฏิรูปบทบาทของครู เป็นกลไกสำคัญของการอยู่ร่วมกันในสังคมโดยปราศจากความขัดแย้ง | |
การอภิปรายร่วมกันได้มีการวิเคราะห์ถึงบทสัมภาษณ์เด็กในสถานการณ์จริงที่ว่า การอยู่กับเพื่อนพ้องในสังคมย่อมมีความสำคัญมากกว่าการได้มาซึ่งเครื่องมือ/อุปกรณ์ทางเทคโนโลยี ดังนั้น จึงควรส่งเสริมให้เยาวชนได้รู้จักวิธีการสร้างความสุข/สนุกกับชีวิต การสร้างสันติภาพ ความปลอดภัย และความเจริญรุ่งเรือง เพื่อสามารถดำรงชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้ในสังคม ไม่เน้นแค่การแข่งขัน แต่ควรส่งเสริมการสร้างความร่วมมือระหว่างกันด้วยการสร้างสัมพันธภาพที่ดีอันจะนำไปสู่ความสงบสุขทางสังคมโดยปราศจากความขัดแย้ง รวมทั้งการบูรณาการหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อผลักดันให้เกิดสังคมแห่ง “การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น” และนำไปสู่การดำเนินการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
-------------------------------
ข้อมูลโดย
กลุ่มความร่วมมือพหุภาคี ๑
สำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๕