สานสัมพันธ์ ไทย - กัมพูชา ขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการศึกษา

          พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้การต้อนรับ นายฮุน ซาเรือน (H.E. Mr. Hun Saroeun) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาประจำประเทศไทย พร้อมด้วย Mr. Keam Sarat อัครราชทูตที่ปรึกษา และ Mr. Sab Samkhan เลขานุการเอก จากสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 น. ณ ห้องรับรองดำรงราชานุภาพ กระทรวงศึกษาธิการ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมแสดงความยินดีในการเข้ารับตำแหน่งและหารือความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างไทยและกัมพูชา โดยมีนางพิมพ์วรัชญ์ เมืองนิล ผู้อำนวยการสำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมการเยี่ยมคารวะและหารือความร่วมมือ

          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้กล่าวต้อนรับ นายฮุน ซาเรือน และแสดงความยินดีในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาประจำประเทศไทย เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา พร้อมกล่าวแสดงความยินดีในวาระครบรอบ 74 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-กัมพูชาในปีนี้ ซึ่งนับเป็นระยะเวลาที่ยาวนานของความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้ เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต (Samdech Moha Borvor Thipadei Hun Manet) นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชาได้เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ซึ่งเป็นโอกาสอันดีในการกระชับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างไทยและกัมพูชา และด้วยความเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีอาณาเขตพรมแดนติดต่อกันมีประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ศาสนา และรูปแบบการดำรงชีวิตของประชาชนที่คล้ายคลึงกัน รวมทั้งมีความสัมพันธ์ในระดับประชาชนที่ใกล้ชิด ทำให้การส่งเสริมความร่วมมือในมิติด้านการศึกษาระหว่างกันสามารถดำเนินไปได้ด้วยดี

          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้กล่าวถึง นโยบายหลักของการขับเคลื่อนกระทรวงศึกษาธิการ “เรียนดี มีความสุข” เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาไปพร้อมกับผู้เรียน ซึ่งการทำให้ผู้เรียนดีและมีความสุขได้นั้น จะต้องลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา การแก้ไขปัญหาหนี้สินครู จัดสรรอุปกรณ์การเรียนการสอนและสวัสดิการ รวมทั้งการลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง โดยการให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงการเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา “Anywhere Anytime” ส่งเสริมและสนับสนุนระบบหรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ โดยผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา มีการจัดทำระบบวัดผลเทียบระดับการศึกษาและประเมินผลการศึกษา (สอบเทียบ) สำหรับผู้เรียนที่มีความสามารถ และการศึกษาพร้อมฝึกวิชาชีพเพื่อเรียนจบแล้วมีงานทำ เป็นนโยบายที่ทางกระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญ

          นายฮุน ซาเรือน ได้กล่าวขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญต่อการศึกษาเช่นเดียวกันกับรัฐบาลกัมพูชา พร้อมชื่นชมนโยบายด้านการศึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่รับกับสมัยปัจจุบันและสอดคล้องกับนโยบายการลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการศึกษาจากเมืองหลวงสู่ชนบทของกัมพูชา ซึ่งมีนโยบายส่งเสริมการสอนด้านอาชีวศึกษาและวิชาชีพให้แก่นักเรียนที่อยู่ในชนบทและพื้นที่ห่างไกลของกัมพูชา เพื่อให้พร้อมรับกับการทำงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และยกระดับการใช้ชีวิตของประชาชนในเขตพื้นที่ห่างไกล ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตกัมพูชาฯ ได้กล่าวถึงนโยบายการให้ความสำคัญด้านการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของรัฐบาลกัมพูชา การสอบเทียบหรือผ่านระดับมัธยมศึกษาตอนปลายต้องได้มาตรฐานตามเกณฑ์ เพื่อเข้าสู่การศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ ได้กล่าวถึงวาระการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นำไปสู่การยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในการเป็น “หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์” โดยจะมีการริเริ่มและสานต่อความร่วมมือระหว่างประเทศในหลากหลายด้าน

          เอกอัครราชทูตกัมพูชาฯ ได้แสดงความขอบคุณรัฐบาลไทยที่ได้ให้การสนับสนุนดำเนินการโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา (ด้านการศึกษา) ตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แก่สถาบันเทคโนโลยีกำปงเฌอเตียล และสถาบันเทคโนโลยีกำปงสปือ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 จนถึงปัจจุบัน พร้อมขอบคุณกระทรวงศึกษาธิการไทยในการจัดการศึกษาให้แก่บุตรหลานของแรงงานกัมพูชาในประเทศไทย ซึ่งมีจำนวนมากในหลายจังหวัด

          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมีความยินดีที่จะส่งเสริมการจัดการศึกษาทุกระดับให้แก่เยาวชนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย และยินดีสนับสนุนความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างไทยและกัมพูชาภายใต้กรอบความร่วมมือด้านการศึกษาที่เกี่ยวข้องต่อไป

ข้อมูล : พิชญสุดา พลเสน
ภัสศรี ศิริประภา
กลุ่มความร่วมมือทวิภาคี
ภาพถ่าย : กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานรัฐมนตรี 
รายงานโดย : กลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศต่างประเทศ
สำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
8 มีนาคม 2567